จุดเช็กอิน ที่เที่ยวกระบี่

จุดเช็กอิน ที่เที่ยวกระบี่

จุดเช็กอิน ที่เที่ยวกระบี่ เมื่อเราทำงานหนักเกินไปและไม่มีเวลาพักผ่อนก็ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยและเหนื่อยล้า ร่างกายจะดูไร้ชีวิตชีวาและความคิดดีๆ จะไม่เกิดผล หากคุณรู้สึกเช่นนี้เช่นกัน ฉันขอแนะนำให้คุณหาเวลาว่าง ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น เยียวยาจิตใจของตัวเอง ฟื้นกำลัง และเผชิญกับงานที่คุณทำอีกครั้ง ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่านี้อีกแล้ว แค่ “ออกไป”

การออกไปชมทุกสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นอาจเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาจิตวิญญาณได้ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ ธรรมชาติทำให้เรารู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และช่วยให้เราฟื้นคืนสติอยู่เสมอ ที่ไหน? มันทำให้เราอยากสัมผัสความรู้สึกนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำจังหวัดที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งจะทำให้ท่านได้ผ่อนคลายและสัมผัสธรรมชาติที่สดชื่น ไม่ว่าจะเป็นสายลมที่พัดผ่านตัว ทะเลสวย หาดทรายขาวเนียน ภูเขาเขียวชอุ่มสวยงาม จุดชมวิว และร้านกาแฟสวย ๆ รวมทั้งวัดที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง ดูเหมือนมีสถานที่เหล่านี้อยู่เกือบทุกที่ที่คุณสามารถเช็คอินและสัมผัสบรรยากาศได้ และหลาย ๆ คนก็อาจมีไอเดียสำหรับจังหวัดนี้อยู่แล้ว แต่วันนี้เราขอแนะนำอีกหนึ่งจังหวัดภาคใต้ที่คุณสามารถเลือกพักผ่อนได้ นั่นก็คือ กระบี่ เพราะกระบี่เปรียบเสมือนสวรรค์แห่งการพักผ่อนจริงๆ ดังคำที่ว่า “กระบี่เที่ยวเดียวไม่พอ” ไปดูว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่เราคัดสรรมาสวยงามและน่าสนใจขนาดไหน

จุดเช็กอิน ที่เที่ยวกระบี่ 1. เกาะห้อง

จุดเช็กอิน ที่เที่ยวกระบี่ “เกาะห้อง” เป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมาย ตั้งอยู่ในพื้นที่คุ้มครองของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จึงไม่น่าแปลกใจที่เกาะห้องจึงเป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติควรไปเยือนอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต เกาะห้องหรือ “เกาะลาวดี” โดดเด่นด้วยหาดทรายหลากสีสัน หาดทรายขาวเว้า โค้ง ครึ่งวงกลม น้ำทะเลใส ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนที่สวยงาม นี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเกาะห้องที่ธรรมชาติมอบให้เราชื่นชมและสัมผัส นอกจากนี้หากใครสนใจกิจกรรมดำน้ำตื้นที่นี่ก็มีบริการครบวงจรทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติใต้น้ำที่สวยงามของทะเลอันดามัน คุณสามารถพักผ่อน อาบแดด หรือพายเรือคายัครอบเกาะได้ ถือเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ นี่คือสวรรค์สำหรับคนรักทะเล

ส่วนเกาะห้องสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมเกาะห้องคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม เพราะถ้าเป็นเดือนอื่นก็คงเป็นฤดูมรสุมและทะเลคงไม่สวยงามเท่าที่ควร

2. เกาะเหลาลาดิง หรือ เกาะหลาลิง

เกาะเหลาลาดิงเป็นเกาะเล็กๆ ไม่ไกลจากเกาะห้อง เป็นเกาะสัมปทานที่เก็บรังนก ที่นี่จึงเงียบมาก ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่มีทรายละเอียดสีขาว โค้งไม่ยาวมากนัก เกาะล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูน เหมาะสำหรับคนที่อยากนอนรับลมทะเลแต่ต้องการธรรมชาติจริงๆ ค่ะ น้ำทะเลที่นี่ใสมาก เป็นสีเขียวมรกต นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังน้ำตื้นและปลาหลากสีสัน มาดูกันดีกว่า เกาะเหลาลาดิงมีชื่อเล่นว่า “เกาะเหลาลาดิง” “เกาะสวรรค์” มีถ้ำหลายแห่งที่นกนางแอ่นใช้สร้างรังบนเกาะ หากใครชอบบรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เราขอแนะนำให้คุณไม่ควรพลาดสถานที่นี้

3. อ่าวไร่เลย์

หาดไร่เลย์เป็นหาดทรายขาวละเอียดทอดยาว หาดไร่เลย์เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนหน้าผา หลายๆ คนเข้าใจผิดว่าหาดไร่เลย์เป็นเกาะ แต่จริงๆ แล้วหาดไร่เลย์นั้นล้อมรอบด้วยภูเขา ดังนั้นการเดินทางที่นี่จึงทำได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น ไรลีย์แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ เวสต์ไรลีย์ และอีสต์ไรลีย์ มีน้ำทะเลใสสวยงาม และหาดไร่เลย์ หรือที่เรียกกันว่า “พระอาทิตย์ตก” ก็สวยสะดุดตาไม่แพ้กัน นอกจากนี้ หาดไร่เลย์ยังมีกิจกรรมปีนหน้าผาอีกด้วย เนื่องจากมีเนินหินปูนมากมายบนชายหาดแห่งนี้ การปีนหน้าผาจึงมีให้บริการตลอดทั้งปีและเป็นกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัย

บนหาดไร่เลย์ยังมีถ้ำพระนางซึ่งเป็นสถานที่ที่นำพาจิตวิญญาณของคนในพื้นที่ ในถ้ำจะพบเห็นผู้คนจำนวนมากมาสักการะและขอพร หากความปรารถนาเป็นจริง Paladin จะถูกประดิษฐานเป็นคำสาบาน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ถ้ำจะเต็มไปด้วย Paladins

4. ดินแดงดอย

ดินแดงดอยเป็นจุดชมวิวที่มองไม่เห็นมากที่สุดในจังหวัดกระบี่ เพราะบรรยากาศและทิวทัศน์จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับพื้นที่ภาคเหนือและคุณสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศา ที่จอดรถอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว แต่ขอบอกก่อนว่าแนะนำให้ไปดินแดนแดงตอนเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้นสักหน่อยเพื่อจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากด้านหลังภูเขา มันเป็นสิ่งที่สวยงามมากจนฉันไม่สามารถอธิบายได้ หากอากาศเย็นลงเราก็จะได้เห็นทะเลหมอกจางๆ ด้วย หรือถ้าไม่สะดวกช่วงเช้าก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกในตอนกลางคืนได้ รับรองบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ บนดาดฟ้าชมวิว จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้กับนักท่องเที่ยวที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า หรือถ้าใครสนใจพักค้างคืนก็มีห้องว่างครับ ร้านอาหารเปิดให้บริการตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 10.00 น. จุดชมวิวเปิดตลอดทั้งวัน ผู้ที่ไม่ได้เข้าพักจะถูกเรียกเก็บเงิน THB 20 ต่อผู้ใหญ่หนึ่งคน เด็ก THB 10 ต่อคน หรือ THB 20 ต่อคน สำหรับบริการรถรับส่ง เนื่องจากที่พักนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว

5. คลองสระแก้ว

คลองสระแก้วเป็นคลองน้ำจืด สะอาด น้ำใสมาก คลองตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำลำธาร ทำให้น้ำเป็นสีเขียวอมฟ้า บรรยากาศโดยรอบเป็นธรรมชาติและเย็นสบาย อากาศเย็นสบาย คลองตอนบนจะไหลผ่านป่าพรุไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ยาวประมาณ 2-3 กิโลเมตร คลองสระแก้วมีกิจกรรมทางน้ำมากมาย หรือถ้าเพื่อนอยากเล่นน้ำก็จะมีหนังยางไว้บริการ เวลาเล่นน้ำก็จะมีจุดเล่นน้ำหลายจุด หรือจะเลือกพายเรือคายัคระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร หรือจะเดินเท้าสำรวจเส้นทางธรรมชาติเพื่อชมวิวก็ได้ แนะนำว่าถ้าเป็นฤดูร้อนนักท่องเที่ยวก็จะเยอะมาก เนื่องจากน้ำที่นี่ค่อนข้างเย็นจึงมีผู้คนมาเล่นน้ำเพื่อคลายร้อนกันเป็นจำนวนมาก มีร้านอาหารอยู่หน้าลานจอดรถ มีบริการเครื่องดื่ม มีค่าธรรมเนียมว่ายน้ำ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

6. ท่าปอมคลองสองน้ำ

ท่าปอมเป็นชื่อของคลองสั้น ๆ ยาวประมาณ 5 กิโลเมตร มีแหล่งกำเนิดอยู่บนเขาช่องพระแก้ว ปลายทางของคลองจะไหลลงสู่ทะเลอันดามัน ดังนั้นเมื่อน้ำทะเลลดลง น้ำจืดจึงไหลลงสู่ทะเล จะทำให้น้ำในคลองกลายเป็นน้ำจืดซึ่งมีสีใสเป็นสีฟ้าเขียว นี่เป็นแม่น้ำที่สวยงามมาก เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น น้ำทะเลจะไหลลงคลองทำให้เป็นน้ำเค็มหรือน้ำกร่อย น้ำก็จะมีสีขุ่น คลองท่าปอมจึงถูกเรียกว่า “ท่าปอมคลองสองน้ำ” เนื่องจากแหล่งน้ำคือบ่อผุด ทำให้เป็นแหล่งของระบบนิเวศ เช่น ป่าพรุ ป่าฝน และป่าชายเลน เมื่อป่าทั้งสามประเภทนี้มารวมกัน ทำให้เกิดความหลากหลายของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติมากมาย แหล่งวิจัยระบบนิเวศที่ดี ท่าปอมคลองสองน้ำ มีสะพานยาวประมาณ 700 เมตร ให้เราได้เดินเล่นชมความงามของคลองแห่งนี้ เนื่องจากมีป่าพรุ ป่าดิบ และป่าชายเลนทั้งสองด้านของถนน จึงเป็นเส้นทางที่เดินเป็นวงกลม คุณจะเห็นน้ำใส เป็นสีฟ้า-เขียว แม้ว่าน้ำที่นี่จะใสมากแต่ก็ไม่เหมาะกับการดื่ม เนื่องจากต้นไม้ต้นนี้เป็นน้ำพุที่ไหลมาจากภูเขาหินปูนจึงมีหินปูนอยู่เป็นจำนวนมาก หากเดินต่อไปจะเห็นว่าต้นไม้ที่นี่มีรากและกิ่งก้านมากมายที่ยื่นออกมาค้ำยันลำต้นไม่ให้ถูกชะล้างออกไปได้ง่าย ไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำที่ท่าปอม เพราะจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศ ไม่อนุญาตให้นำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้ามาในบริเวณนี้ เที่ยวท่าปอมสามารถมาได้ตลอดทั้งปี

บทความแนะนำ

แนะนำ ร้านอาหารในภูเก็ต

จุดชมวิวภูเก็ต