จุดชมวิวภูเก็ต “ไข่มุกแห่งอันดามัน สวรรค์แดนใต้ หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี พลังหลวงพ่อแช่ม” คงจะแปลกถ้าพูดแบบนี้ไม่มีใครเดาได้ หลายคนคงถึงบางอ้อตั้งแต่ประโยคแรก กับ ‘ไข่มุกแห่งอันดามัน’ นั่นก็คือภูเก็ต ตัวฉันเอง
ภูเก็ตถือเป็นจังหวัดเกาะเดียวและเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อยู่ติดกับจังหวัดพังงา ภูเก็ตถือเป็นเมืองหลักในภาคใต้ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างก็รู้จัก หากใครเคยไปภูเก็ตไม่ว่าจะโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถโดยสารสาธารณะก็ต้องผ่านไปแล้ว สะพานรักซาราซินอันงดงามตั้งตระหง่าน คอยต้อนรับแขกเมืองอย่างพวกเรา หรือผู้ที่เดินทางทางอากาศสามารถบินไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ตได้ทันที นอกจากนี้ยังสะดวกมากในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัด การเดินทางมีหลายวิธี มีหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นแบบเท่ๆ จิบกาแฟในคาเฟ่ริมทะเลสุดชิค ชมวิว รับลม และอาบแดดบนชายหาดสีทองของภูเก็ต นอกจากนี้ที่พักมีราคาตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึงโรงแรมหรู แต่…วันนี้ไม่ได้พาทุกคนไปเที่ยวทะเลนะ แน่นอนว่ายังคงเป็นทริปธรรมดาเพราะเราจะพาไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเก็ตจากมุมสูงที่จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นหากทุกคนมารวมกันก็บินตรงลงใต้สู่ภูเก็ต
จุดชมวิวภูเก็ต 1. แหลมกระทิง
จุดชมวิวภูเก็ต จุดเช็คอินใหม่และไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนัก แหลมกระทิงตั้งอยู่ติดกับบ้านกระทิงรีสอร์ท แต่เดี๋ยวก่อน. นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถขับรถไปที่รถได้ คือต้องจอดรถบริเวณรีสอร์ทแล้วแลกตั๋วก่อน แจ้งผู้เฒ่าและยามว่าจะไปแหลมกระทิง ทางไปแหลมกระทิงบอกเลยว่าใครสุขภาพไม่ดีก็ไปไม่ได้ แม้ว่าเส้นทางสู่แหลมกระทิงอาจจะยากลำบากแต่เมื่อถึงจุดสูงสุดแล้วคุณจะลืมทุกความรู้สึก ลมทะเลพัดเบาๆ พระอาทิตย์สีทอง ลับขอบฟ้า บรรยากาศก็เย็นสบาย มันอธิบายไม่ได้จริงๆ จากแหลมกระทิงสามารถเห็นแหลมพรมเทพและจุดชมวิวกังหันลมได้จากที่นี่ ใครอยากทดสอบความอดทนก็ไปที่นี่ได้ แต่แนะนำว่าอย่าไปลองช่วงดึกหรือใกล้ค่ำ เพราะเส้นทางจะมืดและอันตราย สาวๆอย่าลืมใส่กางเกงก่อนนะคะ เพราะหญ้าที่ขึ้นสูงอาจทำให้คันได้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกรองเท้าที่เหมาะกับการเดินแหลมกระทิง เพราะคุณต้องปีนหิน ข้ามสนามหญ้าที่ลื่น
2. แหลมพรหมเทพ
หากมาภูเก็ตแล้วมาไม่ถึงแหลมพรหมเทพ ถือว่ามาไม่ถึงภูเก็ต ประโยคนี้เรียกได้ว่าเป็นมนต์ของหลายๆคนเลยทีเดียว ทำให้ทุกคนต้องมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง แหลมพรหมเทพถือเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในภูเก็ต ผู้คนจากหลายพื้นที่ต่างมานั่งชมพระอาทิตย์กลมโตดวงนี้ สิ่งที่อยู่ด้านหลังเส้นขอบฟ้าทอดเงาทอดยาวบนผืนน้ำ เสริมภาพแหลมลาดยื่นออกไปในทะเล เรียกได้ว่าโรแมนติกสุดๆสำหรับคู่รัก อาจจะเหมาะกับคู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพงานแต่งงาน คงเป็นภาพที่สะเทือนใจมาก หากใครเดินทางกับครอบครัว นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์รอบๆ แหลมพรหมเทพ และประภาคารกาญจนาภิเษกในบริเวณใกล้เคียง และยังมีร้านอาหาร ร้านค้า และร้านขายของที่ระลึกในระดับล่างให้เลือกซื้ออีกด้วย
3. จุดชมวิวกังหันลม
หากใครเคยไปแหลมพรมเทพให้เลี้ยวขวาจะเจอกังหันลมสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนภูเขา นี่คือ Windmill Observation Deck เป็นจุดที่สวยงามอีกจุดหนึ่งไม่แพ้แหลมพรเทพ จุดชมวิวกังหันลมอยู่ห่างจากแหลมพรหมเทพเพียงประมาณ 1.3 กม. โดยมีหาดยะนุ้ยอยู่ระหว่างนั้น นี่เป็นชายหาดเล็กๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารมากมายที่นี่ และน้ำก็ใสเพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการหยุดว่ายน้ำหรือพายเรือคายัค ฉันแนะนำในขณะที่รอพระอาทิตย์ตก ที่จุดชมวิวกังหันลมมีศาลาเล็กๆ ให้เรานั่งพักผ่อนรับแสงแดด แต่หากเดินทางช่วงเย็นตอนพระอาทิตย์ตกดินแนะนำให้เตรียมเสื่อมาด้วย หากไปถึงก็นั่งรอชมความงามของธรรมชาติได้เลย เพราะจะมีสนามหญ้าทอดยาวไปจนสุดด้านล่าง มองเห็นแหลมพรหมเทพ หาดยะนุ้ย หาดในหาน และแหลมกระทิงอยู่ไกลๆ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับจุดชมพระอาทิตย์ตกแห่งนี้
4. จุดชมวิวสามอ่าว
สามารถอธิบายได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่มีสามอ่าวและสมกับชื่อของมัน แล้วสามอ่าวนี้คืออะไร? จะมีหาดกะตะน้อย หาดกะตะ และอ่าวสุดท้ายที่เห็นคิวยาวที่สุดคือหาดกะรน หากสังเกตให้ดี จะมองเห็นเกาะเล็กๆ ไม่ไกลจากชายฝั่งมากนัก นั่นก็คืออุราชิมะ มองเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณหาดกะตะ อ่าวที่มองจากที่นี่โค้งเหมือนจันทร์เสี้ยวเหนือหาดทรายขาว พื้นทะเลจะถูกแบ่งตามความลึกจากสีน้ำเงินใสไปจนถึงสีน้ำเงินเข้ม มีศาลาที่จุดชมวิว San’ao ซึ่งคุณสามารถนั่งชมทิวทัศน์ของ San’ao ได้ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
5. ผาหินดำ
มาถึงอีกที่หนึ่งที่อาจเป็นการเดินทางที่ท้าทายมากสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นเราคือเขื่อนผาหินซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิวสามอ่าว หากเดินทางจากกะตะให้ขับรถผ่านจุดชมวิวสามอ่าว คุณจะเห็นป้ายแหลมมัมนอกด้านนอกทางด้านขวามือ ไม่แนะนำให้ขับรถเข้าเขื่อนปาชิน หรือขับไปได้ครึ่งทางแล้วเดินขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในขณะนั้น เพราะถนนเป็นดินลูกรัง สภาพถนนไม่ดีและไม่แนะนำให้ขึ้นหากฝนตก แต่นั่นมัน ฉันจำได้เพราะความงามตามธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้า เราต้องดำเนินต่อไป เมื่อเราไปถึงยอดเขาก็พูดได้สามคำ สวยมาก สุดจะพรรณนา บนยอดเขาสามารถมองเห็นวิว 360 องศาร่วมกับหมู่คณะ เกาะ ชายหาด และอ่าวทั้งเล็กและใหญ่ พวกมันมาเรียงกันต่อหน้าเราในลักษณะพาโนรามาอย่างแท้จริงทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา คุณคงไม่พลาดโอกาสในการถ่ายรูป
6. จุดชมวิวเขาขาด
มุมมองที่นักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่รู้มากนัก ใกล้กับแหลมพันวามากหากใครวางแผนจะพักหรือไปเที่ยวบริเวณแหลมพันวาอย่าลืมแวะจุดชมวิวเขาขาดเพื่อชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ด้านบนถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเป็นจุดชมวิว วิวจากด้านบนสวยงามมาก มองเห็นวิว 360 องศา ทั้งป่าไม้และพื้นที่สีเขียว น้ำทะเลสีฟ้าครามให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผสมผสานกับบรรยากาศของสถาปัตยกรรมบ้านที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับสถานที่แห่งนี้